"รังแค" เกิดจากอะไรและมีวิธีรักษาอย่างไร
รังแค คือ เกล็ดสีขาวซึ่งเกิดจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบนหนังศีรษะหลุดร่วง เป็นอีกภาวะหนึ่งของหนังศีรษะที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย รังแคเกิดจาก สาเหตุหลายปัจจัยด้วยกันแต่โดยปกติแล้วรังแคอาจไม่มีอาการรุนแรงใด ๆ และอาจรักษาได้ด้วยการใช้ “แชมพูขจัดรังแค” แต่สำหรับผู้ที่มีอาการ “รังแค” แย่ลง คันหนังศีรษะรุนแรง ควรรับการรักษาโดยคุณหมอผิวหนัง
รังแคเกิดจาก อะไร
“รังแค” เกิดจากการผลิตเซลล์ผิวหนังมากกว่าปกติ ทำให้จำเป็นต้องผลัดเซลล์ผิวเก่าออกส่งผลทำให้เกิดรังแค ซึ่งอาจสังเกตได้จากสะเก็ดสีขาวที่ร่วงติดอยู่ตามเสื้อผ้าบริเวณไหล่ โดยปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการผลิตเซลล์ผิว มีดังนี้
- ติดเชื้อยีสต์ มาลาสซีเซีย (Malassezia) เป็นเชื้อยีสต์ที่พบได้บนผิวหนังที่คอยกินน้ำมันบนหนังศีรษะที่หลั่งออกมาจากรูขุมขนส่งผลให้หนังศีรษะระคายเคืองและผลิตเซลล์ผิวหนัง
- กลาก เป็นการติดเชื้อจากเชื้อราที่อาศัยอยู่บนหนังศีรษะ เล็บ ผิวหนังทั่วร่างกาย ที่ส่งผลให้ผิวหนังเป็นสะเก็ด มีอาการคัน จนปรากฏเป็นผื่นวงกลมมีขอบสีแดงนูน และอาจรู้สึกเจ็บเมื่อถูกสัมผัส อีกทั้งยังส่งผลให้ผมร่วงเป็นหย่อมได้
- เกลื้อน มีลักษณะคล้ายกับกลาก แต่เกลื้อนจะปรากฏเป็นผื่นสีขาวเล็ก ๆ หรือวงกลมขนาดใหญ่ มีอาการคันเล็กน้อย
- ต่อมไขมันอักเสบ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับเด็กทารก อาจส่งผลให้หนังศีรษะมัน ซึ่งเกิดจากการผลิตไขมันมากเกินไป ส่งผลให้ปรากฏเป็นสะเก็ดสีเหลืองบนหนังศีรษะ คิ้ว และบนผิวหนังที่ถูกห่อด้วยผ้าอ้อม
- สะเก็ดเงินบนหนังศีรษะ เกิดจากเซลล์ผิวหนังใหม่สร้างตัวขึ้นเร็วกว่าปกติเพื่อแทนที่เซลล์ผิวเก่า ถึงยังทราบสาเหตุไม่แน่ชัด แต่คาดว่าอาจมาจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันเกี่ยวกับเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว
- ผลิตภัณฑ์ เช่น แชมพูสระผม สเปรย์จัดแต่งทรงผม ยาย้อมผม เพราะอาจมีสารเคมีที่ส่งผลให้หนังศีรษะระคายเคือง อักเสบ แดง เป็นสะเก็ด
สัญญาณเตือนของรังแค
สัญญาณของ “รังแค” อาจสังเกตได้จากอาการ ดังต่อไปนี้
- คันหนังศีรษะ
- สะเก็ดผิวหนังสีขาวบนหนังศีรษะ และบริเวณอื่น ๆ เช่น เส้นผม คิ้ว เครา
- สำหรับทารกอาจมีสะเก็ดผิวหนังครอบคลุมทั่วหนังศีรษะ
หนังศีรษะลอกเป็นขุย อาจตกลงบนเสื้อผ้าบริเวณช่วงบ่าและไหล่
วิธีรักษารังแค
วิธีบรรเทาอาการ “รังแค” ด้วยธรรมชาติ มีดังนี้
- น้ำมันมะพร้าว นำน้ำมันมะพร้าว 3-5 ช้อนชา โชลมบนหนังศีรษะและหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วสระผมตามปกติ
- น้ำมันมะกอก หยดน้ำมันมะกอก และนวดให้ทั่วทั้งหนังศีรษะ จากนั้นนำที่คลุมผมมาคลุมศีรษะเอาไว้ข้ามคืน และล้างผมออกในช่วงเช้าของวันถัดไป
- น้ำมะนาว นำน้ำมะนาว 2 ช้อนชา หยดลงบนหนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออก จากนั้นนำน้ำมะนาวผสมกับน้ำสะอาด 1 ถ้วย เทลงบนศีรษะอีกรอบ จากนั้นนวดศีรษะและสระผมให้สะอาด
- น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ นำน้ำสะอาดและแอปเปิ้ลไซเดอร์ในปริมาณ 1 ส่วน 4 ของถ้วย ผสมให้เข้ากันชโลมให้ทั่วหนังศีรษะ หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที จากนั้นจึงสระผมให้สะอาด
นอกจากวิธีการบรรเทาอาการังแคด้วยวิธีธรรมชาติแล้ว ยังสามารถใช้ J hair shampoo เพื่อรักษาอาการเกิด “รังแค” ได้อีกด้วย เพราะ J hair shampoo ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน และสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารังแค ผมร่วง ล้าน บาง J hair shampoo ยังปรับสภาพหนังศีรษะให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป
หลังจากใช้ J hair shampoo แล้ว เพื่อประสิทธิภาพที่ดีควรบำรุงต่อด้วย J hair premium miracle mask เพราะมีสารสกัดต่างๆ ที่ช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก เช่น
- HairPLEX™ ช่วยปกป้องเส้นผมระหว่างทำสารเคมี ฟอกผม ทำสี ดัดผม ยืดผม
- Behentrimonium Chloride สารบํารุงเพื่อช่วยให้เส้นผมมีน้ำหนัก
- Shea Butter ช่วยขจัดรังแค ป้องกันผมร่วง ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ
- น้ำมันมะพร้าว แก้ปัญหาผมร่วง เร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม
- Cetrimonium Chloride (CTAC) ช่วยฟื้นฟูและปรับสภาพเส้นผมให้ดีขึ้น หวีง่าย ไม่พันกัน
- Amino Acid Complex สารให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมและหนังศีรษะ
- Vitamin E ปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระ
- VITAMIN B5 ช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้น นุ่มสลวย สวยเงางาม
หากมีความสนใจอื่นๆ เกี่ยวกับเส้นผม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ใน สาระน่ารู้จาก Jhair หรือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านเส้นผม คลิก